รีวิวหนัง | In the Heart of the Sea | หัวใจเพชฌฆาตวาฬมหาสมุทร


 รีวิว In the Heart of the Sea


หนังที่เกี่ยวกับเรื่องการเอาตัวรอดในมหาสมุทรอันเวิ้งว้าง มักจะสนุกและจะได้เข้าชิงรางวัลออสการ์ รวมถึงได้รับรางวัล อย่างเช่น  Life of Pi (ชีวิตอัศจรรย์ของพาย ที่มีเพียงเรือหนึ่งลำกับเสือเบงกอล 1 ตัว และต้องเอาชีวิตรอดจากมหาสมุทร) หรือ  All is Lost (เรือแตก เลยต้องไปอยู่ในเรือชูชีพผจญทั้งพายุ ฉลาม และความหิว ต้องทำทุกวิถีทางเพื่อให้มีชีวิตรอด) โดยเรื่อง  In the Heart of the Sea  ที่เราจะรีวิวกันในวันนี้ นั้น ถือว่าเป็นการรวมแนวของทั้งสองเรื่องข้างต้นไว้ด้วยกันเลยทีเดียว


รีวิว อิน เดอะ ฮาร์ท ออฟ เดอะ ซี


หนังเรื่อง  In the Heart of the Sea สร้างจากเรื่องจริงสุดเหลือเชื่อจนก่อให้เกิดเป็นนวนิยายเรื่องเยี่ยมอย่าง “โมบี้ ดิค” อันโด่งดังของ  “เฮอร์แมน เมลวิล”  (ที่รับบทโดย เบ็น ไวชอว์) ผู้ซึ่งเกิดอาการหมดมุกกับการเขียนงานชิ้นใหม่  จึงต้องการหาข้อมูลจากประสบการณ์จริงในการเอาตัวรอดจากมหาสมุทรและปลาวาฬยักษ์ของ “โทมัส นิกเคอร์สัน” ผู้ที่ยังมีชีวิตรอดอยู่เป็นคนสุดท้ายจากเหตุการณ์ในครั้งนั้น  แต่เรื่องกลับไม่ง่ายอย่างที่คิด เพราะชายชราอย่าง  “โทมัส” ไม่ต้องการเล่าเรื่องราวครั้งนั้นให้ใครฟัง  แต่ในที่สุดเขาก็ยอมเล่าเรื่องราวทั้งหมด เพื่อคลายปมในใจและให้ผู้คนได้รับรู้เหตุการณ์อันสุดระทึกในครั้งนั้นอย่างหมดเปลือก


รีวิว อิน เดอะ ฮาร์ท ออฟ เดอะ ซี


เรื่องราวย้อนกลับไปในช่วงปี 1820  ขณะนั้น “โทมัส” ยังเป็นเด็กชายที่มีอายุเพียง 14 ปี เขาได้ไปทำงานบนเรือ “เอสเซกส์”  ซึ่งเป็นเรือล่าวาฬ เพื่อนำมาสกัดมาเป็นน้ำมัน (สมัยนั้น น้ำมันจากวาฬเป็นเชื้อเพลิงหลักของผู้คนในแถบนั้น)  “โทมัส” ได้เล่าถึงกัปตัน ชื่อ “จอร์จ พอลลาร์ด” (รับบทโดย เบ็นจามิน วอล์คเกอร์) กับ ต้นหนเรือ “โอเว่น เชส” (รับบทโดย คริส เฮมส์เวิร์ธ)   โดยทั้ง “พอลลาร์ด” และ “เชส” นั้นไม่ถูกชะตากันตั้งแต่ก่อนจะเริ่มออกเรือแล้ว  เหตุเพราะ “เชส” ไม่ได้รับตำแหน่งกัปตันเรือตามสัญญา เนื่องจากความเส้นใหญ่ของ “พอลลาร์ด” แต่ที่แย่กว่านั้นคือ กัปตันเรือมือใหม่อย่าง “พอลลาร์ด” เกือบพาชีวิตลูกเรือไปทิ้งกลางมหาสมุทรกับบททดสอบแรก เมื่อเรือโดนพายุจนเกือบเอาตัวไม่รอด  


รีวิว อินเดอะฮาร์ทออฟเดอะซี


ความโชคร้ายยังไม่หยุดเพียงแค่นั้น  การออกล่าวาฬของพวกเขาไม่ประสบความสำเร็จตามเป้าหมายที่ได้ตั้งไว้   ทำให้เขาต้องตัดสินใจเดินเรือไปออกไปยังมหาสมุทรที่ไกลกว่าเดิม ไปจนถึงที่ที่ไม่มีใครไม่กล้าเข้าไป  และเมื่อมาถึงที่นั่น เขาก็พบว่ามีวาฬจำนวนมากมายให้ล่า แต่เหตุการณ์กลับไม่เป็นไปอย่างที่พวกเขาตั้งใจไว้  เพราะเรือของเขากลับถูกวาฬขาวขนาดยักษ์ตัวหนึ่ง  ทำลายจนจมลงสู่ก้นมหาสมุทร ลูกเรือที่เหลือต้องพยายามทุกวิถีทางในการเอาชีวิตรอดจากความหิวโหย ความหวาดกลัว ความสิ้นหวัง ตลอดระยะเวลาอันแสนยาวนาน ที่ล่องลอยอยู่บนเรือชูชีพลำเล็กๆ ท่ามกลางมหาสมุทรอันเวิ้งว้าง โดยมีวาฬยักษ์ตัวนั้นค่อยตามล่าพวกเขาอยู่ตลอดเวลา  จาก “ผู้ล่า”  พวกเขากลับกลายเป็น “ผู้ถูกล่า”   ชีวิตพวกเขาจะเป็นเช่นไรต่อไป และจะสามารถรอดกลับบ้านได้หรือไม่   เชิญท่านติดตามต่อได้ในโรงภาพยนตร์ครับ





สำหรับคะแนนของ “In the Heart of the Sea”  ด้านเนื้อหาและการดำเนินเรื่อง ผมให้ที่  9.5/10 ถือว่าทำได้ดีมาก โดยเฉพาะวิธีการดำเนินเรื่อง โดยการเล่าสลับไปมาระหว่างอดีตกับการพูดคุยกันในปัจจุบันของ “เฮอร์แมน” และ “โทมัส”   ทำให้เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจและไม่น่าเบื่อ ในส่วนของนักแสดงนำ ผมให้ที่ 9/10  ถือว่าทำได้สมจริงมาก ไม่ว่าจะเป็น  “คริส เฮมส์เวิร์ธ” ที่เราเคยชินกับหุ่นล่ำๆ ในบท “ธอร์ เทพเจ้าสายฟ้า”  แต่มาในเรื่องนี้เขาต้องรีดน้ำหนักลงจนกลายมาเป็นคนผอมโซเพื่อให้สมบทบาทในช่วงที่ “เชส” ต้องอดๆ อยากๆ ระหว่างลอยเคว้งคว้างอยู่กลางมหาสมุทรนับเดือน  


รีวิวหนัง In the heart of the sea


ส่วนดารานำอีกคน เอ๊ย อีกตัว คือ “วาฬขาว” ที่ทีมงาน CG ทำออกมาได้ตัวใหญ่ยักษ์และละเอียดสมจริงมาก โดยเฉพาะตามร่างกายของวาฬยักษ์นั้นมีร่องรอยบาดแผลมากมายจากการถูกมนุษย์ล่าให้เห็นด้วย   นอกจากนั้นยังมีแววตาที่มีความอาฆาตแค้นอยู่ตลอดเวลา  จนมันกลายมาเป็นวาฬผู้ล่ามนุษย์บ้าง ต้องขอชมว่าทำได้ดีมากๆ  ในส่วนนี้   สรุปหนังเรื่องนี้ ถือว่าจัดครบ  จัดเต็ม ทั้งในส่วนของการผจญภัย แอ็คชั่น ดราม่า และเทคนิคการถ่ายทำ  โดยรวมผมให้คะแนนที่  9/10 ถือว่าเป็นหนังช่วงส่งท้ายปีอีกเรื่องที่ครบเครื่องทั้ง ข้อคิด คติเตือนใจ  รวมทั้งมีมุมกล้องที่ ทั้งสวย ทั้งโหด สมจริงสมจังมาก  แฟนๆ หนังแนวนี้ห้ามพลาดเด็ดขาดครับ


(ทีมงาน) อาจารย์บอม

 


About Ajbomb

นักหาเรื่อง นักเล่าเรื่อง นักเขียน นักแปล รักการสอน รักเด็ก รักสัตว์ รักธรรมชาติ รักษ์โลก

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น