รีวิวหนัง A Monster Calls มหัศจรรย์เรียกอสูร

เมื่อแรกที่ได้เห็นตัวอย่าง หนัง A Monster Calls มหัศจรรย์เรียกอสูร ผมเดาว่าน่าจะเป็นหนังเด็กแนวแฟนตาซี ที่มีสัตว์ประหลาดออกมาช่วยเด็ก อะไรประมาณนั้น แต่พอได้เข้าไปดูจริงๆ จังๆ ในโรง พบว่าเนื้อหาของภาพยนตร์เรื่องนี้ ซ่อนอะไรดีๆ ไว้เยอะแยะเลยครับ โดยเฉพาะแง่คิดเกี่ยวกับชีวิตและการเอาชนะความกลัวที่ซ่อนเร้นอยู่ในจิตใจ

เรื่องเริ่มจากเด็กชายวัย 13 ปีที่ชื่อ “คอนเนอร์” (รับบทโดย ลูอิส แม็คดูกัลล์) ซึ่งอาศัยอยู่กับแม่ที่ป่วยเป็นมะเร็งระยะสุดท้าย โดยที่พ่อของเขาแยกทางไปมีครอบครัวใหม่ที่ต่างประเทศ “คอนเนอร์” กลายเป็นเด็กมีปัญหา และโดนเพื่อนๆ ที่โรงเรียนรุมแกล้งอยู่ตลอดเวลา ท้ายสุดเขาต้องถูกส่งไปอยู่กับยาย เพราะอาการป่วยของแม่ทรุดลง จนต้องเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาล แต่โชคไม่ดีนักที่เขากับยายเข้ากันไม่ค่อยได้ เขาไม่ชอบยาย และไม่ต้องการไปอยู่กับยาย ท้ายสุดเขาถึงกับทุบทำลายข้าวของต่างๆ ในบ้านยายจนพังไปหมด

แต่แล้วชีวิตของหนุ่มน้อย“คอนเนอร์” ก็พบกับการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในค่ำคืนวันหนึ่ง เขาได้พบกับสัตว์ประหลาดที่เป็นต้นไม้ยักษ์ ผู้นำเขาเข้าไปสู่ดินแดนแห่งจินตนาการโดยได้เล่านิทานให้เขาฟัง 3 เรื่อง ซึ่งแฝงไว้ด้วยข้อคิดในการใช้ชีวิตไว้มากมาย ทั้งนี้เพื่อให้เด็กหนุ่มได้รู้จักและเอาชนะตัวเอง (สำหรับผมแล้วฉากของนิทานเหล่านี้ถือเป็นเสน่ห์ของหนังเรื่องนี้เลยทีเดียว) ตอนจบหนังจะลงเอยอย่างไร แม่ของพ่อหนุ่มคอนเนอร์ จะตายหรือจะรอด? หนุ่มน้อยจะได้เรียนรู้อะไรจากสัตว์ประหลาดบ้าง? และความสัมพันธ์ระหว่างเขากับคุณยายของเขาจะเป็นอย่างไร ขอเชิญไปติดตามดูต่อได้ในโรงภาพยนตร์ครับ

สำหรับคะแนน รีวิวหนัง A Monster Calls มหัศจรรย์เรียกอสูร ในส่วนของเนื้อหาและการดำเนินเรื่องนั้นทำได้ดีเลยล่ะ ผมชอบนะ ให้ที่ 9/10 ในส่วนของนักแสดงโดยเฉพาะหนุ่มน้อย “คอนเนอร์” ที่รับบทโดย “ลูอิส แม็คดูกัลล์” นั้น สีหน้าแววตา บทบาท เข้าถึงอารมณ์มากมาย ต้องยกนิ้วให้ในด้านความสามารถส่วนนี้ผมให้ที่ 9/10 ในส่วนของคอมพิวเตอร์กราฟฟิค หรือ CG อันนี้ทำได้ดีสมจริงมาก ทั้งตัวสัตว์ประหลาดต้นไม้เอง หรือ เอฟเฟคอื่นๆ ผมให้ในส่วนนี้ 9.5/10 และที่ต้องชมเชยเป็นพิเศษ คือแง่คิดเกี่ยวกับชีวิตที่หนังเรื่องนี้พยายามสอดแทรกอยู่ในเนื้อเรื่องตลอด ผมชอบมากๆ ให้ที่ 10/10 เต็ม ถึงขนาดว่าเดินออกโรงมาแล้วยังขบคิดต่อ อันนี้ถือเป็นจุดเด่นสุดๆ ของหนังเรื่องนี้ เอาเป็นว่า โดยรวมสำหรับหนังเรื่องนี้ผมให้ที่ 9.5/10 เป็นหนังดีมากๆ อีกเรื่องของปีนี้ที่ผมแนะนำให้ไปดูกันครับ (ปล.ลืมบอกไป หนังเรื่องนี้ เรต 15+ นะครับ)

อาจารย์บอม