รีวิวหนัง MAD MAX : FURY ROAD (แมดแม็กซ์ ถนนโลกันตร์)

โลกในยุคที่ใกล้จะกลายเป็นทะเลทรายไร้ซึ่งความเจริญรุ่งเรือง ไร้กฏหมาย ป่าเถื่อน ไร้ความเมตตาปราณี นิยมความรุนแรง ทางออกคือ “หนีให้พ้นหรือฆ่ามันให้ตาย” นี่คือนิยามของหนังเรื่องนี้

หากเราย้อนไปเมื่อปี 1979 หรือ 30 กว่าปีก่อนหนังจากออสเตรเลียที่ไม่ค่อยมีใครสนใจกลับกลายเป็นหนังอันทรงคุณค่าของโลกและได้สร้างดาราระดับซุปเปอร์สตาร์ให้กับฮอลีวูด อย่าง “เมล กิ๊บสัน” จนโด่งดังคับฟ้า โดย Mad Max ประสบความสำเร็จอย่างสูงทั้งในเรื่องเงินและเรื่องกล่องจนต้องสร้างต่ออีกถึง 2 ภาค ผ่านไป 30 กว่าปี Mad Max ถูกปัดฝุ่นกลับมาทำใหม่อีกครั้ง โดยได้ ทอม ฮาร์ดี้ มารับบทบาทซิ่งแหลก แหกความตายหลังพวงมาลัย

เขาใช้ชีวิตในทะเลทรายอย่างไร้จุดหมาย เผชิญชะตากรรมกับแก๊งค์คนเถื่อนๆ ต่างๆ เพื่อแย่งชิงน้ำดื่ม อาหารต่างๆ แต่ชะตากรรมโดนจับจากแก๊งค์สุดโหด ที่หัวหน้าใหญ่ทำตัวดังพระเจ้า ที่จับเด็กมาเป็นทหาร จับผู้หญิงมาเป็นสิ่งของไว้เพื่อการสืบทอดเผ่าพันธุ์ของตัวเองเท่านั้น เมื่อ Max เข้ามาอยู่ในขุมนรกที่ยากจะหลุดออกไป แต่ทว่าเขาเป็นพวกบ้าดีเดือดไม่ยอมตายง่ายๆ ทำทุกอย่างให้อยู่รอด ทำให้เกิดฉากไล่ล่าในทะเลทรายอันโหดร้าย และการต่อสู้ที่ เดือด ดิบ เถื่อน แต่เนื้อเรื่องจะอะไรยังไงขอไม่เล่าละกันนะครับ ให้เข้าไปดูกันเองในโรงแบบมันส์ๆ

สำหรับคะแนนของหนังเรื่องนี้ ถ้าเป็นคอหนังแอ็คชั่น Mad Max ต้องได้ 10/10 เลยครับ ถ้าเป็นคอหนังทั่วไปที่ไม่ได้บ้าแอ็คชั่นให้ 9/10 เนื่องจากกว่ามีฉากโหดๆ ดิบๆ เถื่อนๆ มากมายนั่นเอง สำหรับคะแนนเรื่องเครื่องแต่งกาย อุปกรณ์ประกอบฉากต่างๆ เช่นรถที่ใช้ไล่ล่ากัน (เกือบ 80% ของหนัง) นั้นก็ดูสมจริงกับสภาพของโลกในขณะนั้น ผมขอให้คะแนน 9/10 ในส่วนของดารานำทั้งชายหญิงให้ 9/10 ทอม ฮาร์ดี้ (The Dark Knight Rises) ก็ไม่ทำให้ผิดหวัง รวมถึง ชาร์ลีช เธียร์รอน (Snow White and the Huntsman) ที่ลงทุนโกนหัวเพื่อแสดงเรื่องนี้

สุดท้ายสรุปกันสั้นๆ ถ้าเป็นคอหนังแอ็คชั่น ก็ไม่ควรพลาดด้วยประการทั้งปวง กับ MAD MAX :FURY ROAD ที่จัดหนัก จัดเต็มกับความระห่ำ ไล่ล่าฆ่าฟันกันอย่างบ้าคลั่ง และไม่ต้องกลัวว่า ถ้าไม่เคยดู MAD MAX มาก่อนว่าจะดูไม่รู้เรื่องเพราะหนังทำให้ดูง่าย เล่าเรื่องตามเหตุการณ์ไปเรื่อยๆ บทพูดก็ไม่เยอะ จัดเต็มฉากแอ็คชั่นให้ดูกันจุใจตลอดเวลา 2 ชั่วโมง

(ทีมงาน) อาจารย์บอม