
เสรีภาพออนไลน์ ภายใต้กำแพงดิจิทัล
โดย #อาจารย์บอมมองโลก
🌍 โลกดิจิทัลที่ไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป
พวกเราเคยรู้สึกกันไหมว่า “อินเทอร์เน็ต” ที่เราเคยใช้เหมือนกันทั้งโลก ทุกวันนี้มันเริ่มจะไม่เหมือนกันอีกต่อไปแล้ว?
ตอนนี้โลกกำลังแยกเป็น “หลายอินเทอร์เน็ต” (Splinternet) เพราะประเทศต่างๆ เริ่มไม่ไว้ใจกันและกัน และเริ่มสร้าง “กำแพงดิจิทัล” กันแบบเงียบๆ
ยกตัวอย่าง…ตอนประชุมใหญ่ที่ปารีสเดือนกุมภา 2025 ที่ผ่านมา สหรัฐอเมริกา (ที่ตอนนี้รองประธานาธิบดีคือ JD Vance) ก็พูดชัดเลยว่า “เราไม่เล่นด้วยนะถ้าจะให้ AI ถูกควบคุมโดยองค์กรนานาชาติ” — ใช่ครับ! นโยบาย “America First” ยังอยู่ และยังแข็งกร้าวเหมือนเดิม
ส่วนจีนก็ไม่ยอมน้อยหน้า พูดถึง “อนาคตร่วมกันของมนุษยชาติ” แต่เบื้องหลังคือทุ่มเงินมหาศาลไปกับโครงการ Made in China 2025 และ Digital Silk Road เพื่อขยายอิทธิพลเทคโนโลยีของตัวเองให้แผ่ไพศาลออกไปทั่วโลก
🔐 อินเทอร์เน็ตที่ไม่เสรีอีกต่อไป
หลายประเทศเริ่มออกกฎหมายควบคุมในเรื่องข้อมูลอย่างเข้มงวด เช่น อินโดนีเซียบอกว่าใครจะเปิดเว็บไซต์อะไรขึ้นมา ต้องให้รัฐเข้าถึงข้อมูลได้ทุกเมื่อ — ถ้าไม่ให้ก็ “บล็อกไปเลยจ้า”
ซึ่งทั้งหมดนี้ ทำให้อินเทอร์เน็ตไม่ใช่ “ของสาธารณะ” อย่างที่เคยเป็นอีกต่อไป แต่กลายเป็นเครื่องมือของรัฐในการควบคุมข่าวสาร ความคิด และแม้กระทั่งความรู้สึกของผู้คน
🌍 แอฟริกา: สู้เพื่ออธิปไตยทางดิจิทัล
ฝั่งแอฟริกาเองก็พยายามลุกขึ้นมาโดยไม่ยอมเป็นเพียงผู้บริโภคเทคโนโลยีจากจีนหรือสหรัฐฯ แต่เพียงอย่างเดียว หลายประเทศเริ่มผลักดันให้มีอินเทอร์เน็ตของตัวเอง อย่างกรณี Starlink ซึ่งกลายเป็นทั้งโอกาสและภัยคุกคามในเวลาเดียวกัน เพราะถ้าไม่มีการวางกติกาให้รัดกุม เมื่อมีคนใช้งานเยอะ…รัฐก็จะคุมอะไรไม่ได้เลย
🧠 เมื่อ AI กลายเป็น “สายลับ”
สิ่งที่น่ากลัวที่สุดที่บทความนี้ต้องการบอก คือการใช้ AI เพื่อควบคุมความคิดและข้อมูลของประชาชน
ในสหรัฐฯ เองก็มีการใช้ AI คัดกรองเนื้อหาโดยรัฐ
ส่วนจีนไม่ต้องพูดถึง… AI ถูกฝึกให้ทำหน้าที่เฝ้าระวังพฤติกรรมของประชาชน โดยเฉพาะในพื้นที่อย่างซินเจียง ที่มีการตรวจจับใบหน้า-พฤติกรรมทุกอย่างแบบ real-time
🤝 แล้วเราจะอยู่ร่วมกันยังไงดี?
แม้โลกกำลังมีการแบ่งขั้วกันทางเทคโนโลยี แต่ผู้เขียนเสนอว่า “ทางออกเดียวที่ยั่งยืนคือการร่วมมือกัน” — ใช่ครับ ฟังดูออกจะเป็นอุดมคติ แต่การที่ประเทศต่างๆ จะกำหนดมาตรฐานร่วมกันได้ ยังคงเป็นทางเลือกเดียวที่จะช่วยให้ประชาชนมีสิทธิ มีเสียง และมีอิสระในโลกดิจิทัลได้อย่างแท้จริง
💬 มุมมองจาก #อาจารย์บอมมองโลก
สิ่งที่น่าคิดจากบทความนี้คือ…
“ประชาธิปไตยในโลกดิจิทัล ไม่ได้เกิดขึ้นเพราะเทคโนโลยีได้รับการพัฒนา แต่จะเกิดขึ้นได้ต่อเมื่อมนุษย์รู้เท่าทันและควบคุมเทคโนโลยีนั้นได้”
ทุกวันนี้โลกไม่ได้ขาดเทคโนโลยี แต่ขาด “จริยธรรม” ในการใช้งานเทคโนโลยี
AI จะเป็นนางฟ้าหรือซาตาน ขึ้นอยู่กับมือที่ใช้งานมัน และใจที่ควบคุมมัน
ถ้าอยากให้อนาคตของดิจิทัลมีความเป็นประชาธิปไตย เราต้องเริ่มจากการสร้างวัฒนธรรม “รับผิดชอบร่วมกัน” — ทั้งในระดับบุคคล ระดับชาติ และระดับโลก
เพราะสุดท้าย…
เทคโนโลยีที่ปราศจากหัวใจ จะกลายเป็นเครื่องมือทางอำนาจของเผด็จการ
สำหรับผู้ที่ต้องการอ่านต้นฉบับของบทความฉบับเต็ม (ภาษาอังกฤษ) สามารถดูได้จาก ลิงก์นี้:
Digital Democracy in a Divided Global Landscape – Carnegie Endowment for International Peace
#อาจารย์บอมมองโลก
ขอบคุณที่อ่านมาถึงตรงนี้นะครับ 🙏
ถ้าอยากเข้าใจโลกยุคใหม่ อย่าดูแค่สิ่งที่ “ถูกปล่อยให้เราเห็น”
แต่ให้ดูว่า “ใครเป็นคนกำหนดสิ่งที่ต้องการให้เราเห็นแค่นั้น” ต่างหากครับ