โดย อาจารย์บอม ชนัฐ เกิดประดับ

ยุคสมัยแห่งข้อมูลข่าวสาร ไม่ได้หมายความว่าเราจะเข้าถึง “ความจริง” ได้สะดวกขึ้นแต่เพียงอย่างเดียว โดยเฉพาะเมื่อเทคโนโลยี AI ถูกนำมาใช้เป็นอาวุธในทางการเมือง — ไม่ใช่เพื่อ “การพัฒนา” แต่เพื่อ “การปลอมแปลง”
Deepfake กับสนามเลือกตั้งสหรัฐฯ ปี 2024
ในปี 2024 หน่วยข่าวกรองของสหรัฐฯ ออกมาเปิดเผยข้อมูลที่ทำให้ทั้งโลกต้องหันกลับมาสนใจว่า “AI กำลังเล่นบทบาทอะไร” ในการเมืองระดับโลก โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับการเลือกตั้งในประเทศที่มีอิทธิพลสูงอย่างสหรัฐอเมริกา
รัสเซีย ถูกระบุว่าใช้ AI สร้างวิดีโอปลอม (deepfake) เพื่อทำลายความน่าเชื่อถือของ “คามาลา แฮร์ริส” รองประธานาธิบดีของสหรัฐฯ เช่น วิดีโอที่เธอถูกใส่ความว่าไปล่าสัตว์อย่างผิดกฎหมายในแอฟริกา หรือการไปพูดจาเสียดสีอดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์
[แหล่งข่าวจาก Microsoft Blog]
อิหร่าน ก็ไม่น้อยหน้า ใช้ AI สร้างเนื้อหาปลอมเป็นภาษาอังกฤษและสเปน โดยเน้นประเด็นที่อ่อนไหว เช่น ความขัดแย้งในกาซา และการเลือกตั้งอเมริกา เพื่อกระตุ้นความเกลียดชังและแตกแยกในสังคม
[แหล่งข่าวจาก NPR]
จีน ใช้บัญชีปลอมบนแพลตฟอร์มยอดนิยมอย่าง TikTok ภายใต้แคมเปญที่เรียกว่า “Spamouflage” โดยแอบอ้างว่าเป็นชาวอเมริกัน แล้วปล่อยข้อความที่สร้างความเกลียดชังให้กับทั้งสองฝั่งการเมือง
[แหล่งข้อมูลจาก Wikipedia]
เมื่อ “ความจริง” อาจไม่มีอยู่ในยุค AI
ถ้าถามว่าเทคโนโลยีทำอะไรกับการเมืองได้บ้าง? คำตอบในวันนี้อาจไม่ใช่แค่ “ช่วยวิเคราะห์นโยบาย” หรือ “วัดกระแสโพล” แต่กลายเป็นการ “ใส่หน้ากากหลอกประชาชน” ผ่านภาพ เสียง และข้อความที่ปลอมขึ้นจนดูเหมือนจริงถึงขั้นที่ว่าจับผิดแทบไม่ได้
AI จึงไม่ใช่แค่เครื่องมือแห่งอนาคตอีกต่อไป แต่เป็น “สนามรบใหม่” ของอำนาจในศตวรรษที่ 21 และเมื่อ AI มีความสามารถเทียบเท่าหรือเหนือกว่ามนุษย์ในบางบริบท การวางระบบตรวจสอบ การรู้เท่าทันสื่อ และการสร้างกฎหมายป้องกันจึงไม่ใช่แค่ “ทางเลือก” แต่มันคือ “ความจำเป็น”
“อนาคตของประชาธิปไตย อาจไม่ได้ตัดสินกันแค่ที่คูหาเลือกตั้ง แต่อยู่ที่ว่า เราจะรู้ว่าอะไรคือความจริงได้มากแค่ไหน”
บทวิเคราะห์: #อาจารย์บอมมองโลก
ในฐานะคนที่คลุกคลีทั้งวงการสื่อ สังคม และเทคโนโลยี ผมอยากชวนทุกท่านตั้งคำถามว่า “AI ทำให้โลกนี้โปร่งใสขึ้น หรือพร่ามัวลง?” สิ่งที่น่ากลัวสำหรับวันนี้ ไม่ใช่ AI ที่ฉลาดเกินไป — แต่เป็น “บางคนที่ใช้ AI ไปในทางที่ผิดๆ” โดยผู้คนทั่วไปอาจไม่ทันฉุกคิดว่า “สิ่งที่เห็นอาจไม่ใช่สิ่งที่เป็นจริง”
ในอนาคตอันใกล้ เราอาจต้องมี “วัคซีนทางปัญญา” เพื่อป้องกันไวรัสข่าวปลอม ที่เกิดจากปัญญาประดิษฐ์ อย่ารอให้ deepfake มาเคาะประตูบ้าน แล้วเราค่อยหันมาป้องกัน เพราะในยุคนี้… การรู้เท่าทันเทคโนโลยี คือรูปแบบใหม่ของ “พลเมืองที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความรับผิดชอบ”
ผมเชื่อว่า “ประชาธิปไตยที่ยั่งยืน” จะต้องมีประชาชนที่ “เห็นภาพจริง” ไม่ใช่แค่ “เห็นภาพที่ถูกทำให้เชื่อว่าเป็นจริง” — และหน้าที่ของเราทุกคนคือการฝึกใช้ “สมองคน” ให้ทันกับ “สมองกล”
ติดตามบทความใหม่ ๆ จาก “อาจารย์บอมมองโลก” ได้ที่ Facebook และบล็อกประจำสัปดาห์ครับ