รีวิวหนัง King Arthur Legend of the Sword 

 

 

 

 เรื่องนี้ถูกถ่ายทอดด้วยลีลาแนว แฟนตาซี ด้วยสเปเชียลเอฟเฟคในการต่อสู้ และเวทมนต์ มากกว่ามหาสงครามแบบเวอร์ชั่นก่อนๆ  โดยการจะให้น้ำหนักไปทางเรื่องราวในวัยหนุ่มของ กษัตริย์อาร์เธอร์(กล้ามใหญ่) ก่อนที่จะจัดตั้งกลุ่มอัศวินโต๊ะกลม  ที่เติบโตจากข้างถนน (เฮียแกเป็นนักเลงคุมซ่อง แถวบ้านเรียกเจ้าถิ่นที่ทหารองครักษ์ยังต้องจ่ายส่วย!! แม่เจ้า) สู้เส้นทางแห่งราชันย์กับการทวงแค้น เพื่อหวนคืนบัลลังก์โดยชอบธรรม ที่สำคัญ เฮียเดวิด เบ็คแฮม ก็มาด้วย ถึงจะมาแค่แปปเดียวก็เถอะ แบบว่าแต่งหน้าหลายชั่วโมงมาแปปเดียว สงสัยค่าตัวแพง

กลับเข้าเรื่องก่อนจะไปไกลกว่านี้ ว่าด้วยเรื่องการดำเนินเรื่องดีกว่า ในช่วงต้นอาจจะไปค่อนข้างเร็ว โดยทิ้งปมเอาไว้ให้คิดตาม  แต่เมื่อผ่านเข้าสู่กลางเรื่องทุกอย่างจะเผยขึ้นเป็นสเต็ปๆของเรื่องไป (อาจเป็นที่สไตล์ของผู้กำกับเอง เฮียกาย ริตชี) เนื้อเรื่องหลักๆ ของเรื่องเน้นไปที่การไล่ล่าต่อสู้ของ อาร์เธอร์และเหล่าผู้ติดตาม ที่เต็มไปด้วยความฮาและมุขตลกแบบเจ็บๆ แทบตลอดทั้งเรื่อง พูดได้เต็มปากเลยว่า เขาไม่ใช่คิงอาร์เธอร์ที่ท่านเคยรู้จักมาอย่างแน่นอน (ประมาณว่าใช่หรอ.??) ในหนังยังเต็มไปด้วยความแฟนตาซีชนิดจัดเต็มมาให้ท่านรับชมเลยทีเดียว (ถ้าท่านเป็นแฟนไอ้มดแดง คงบอกว่านี่มันคล็อกอัพชัดๆ!!) มาพูดถึงเรื่องฉากประกอบกันดีกว่า ท่านผู้ชมจะได้รับชมกลิ่นอายของความเป็นกรีก ผสมโรมันในยุคอัศวิน แบบเต็มๆ ผ่านทางรูปแบบสถาปัตยกรรมตลอดเรื่องไม่ว่าจะเป็นบ้านเรือนหรือปราสาทที่สุดแสนจะอลังการ จนอาจจะทำให้หลายๆ คนเกิดความสงสัยขึ้นว่าทำไมเกาะบริเตนในยุคนั้นถึงคล้ายกับกรีกนัก (นอกเรื่องกันแปป จริงๆแล้วจากตำนานยุคนั้นเป็นช่วงบุกเบิกเกาะบริเตนยุคแรกๆผู้คนส่วนใหญ่ในยุคนั้นส่วนใหญ่มาจากกรีกและโรมันซะเป็นส่วนใหญ่จึงมีอิทธิพลต่อสถาปัตยกรรมด้วยนั่นเอง ใช่ป่าวไม่รู้นะเท่าที่เคยอ่านเจอเขาบอกแบบนี้)