รีวิวหนัง Beauty and the Beast โฉมงามกับเจ้าชายอสูร


 บิวตี้แอนด์เดอะบีสท์


เป็นหนังที่มีกระแสแรงมาอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่ยังไม่เข้าโรง สำหรับ  โฉมงามกับเจ้าชายอสูร  Beauty and The Beast ฉบับคนเล่น เพราะได้ดาราสาวสวยระดับแม่เหล็กเรียกพี่ อย่าง เอมม่า วัตสัน มารับบทเป็น นางเอกของเรื่องนี้  นอกเหนือนางเอกที่งามราวกับถอดแบบจากการ์ตูนออกมาแล้ว ในส่วนของ ภาพ เสียง และ เพลง ก็มาแนว ดิสนีย์ จัดเต็ม แบบไม่มีข้อกังขาใดๆ สำหรับความสมบูรณ์แบบของ “โฉมงามกับเจ้าชายอสูร” ในเวอร์ชั่นนี้


หนัง Beauty and the Beast


สำหรับเรื่องย่อๆ  ก็ไม่แตกต่างมากนักจากภาคการ์ตูน หากท่านที่เคยดูเวอร์ชั่นการ์ตูนมาแล้วก็คงจะพอเดาได้ว่าเรื่องจะดำเนินไปแบบใด ส่วนท่านที่ไม่เคยดูมาก่อน ก็ขอเล่าแบบย่อๆ แล้วกันกาลครั้งหนึ่งนานมาแว้วว  มี เจ้าชายผู้ปราศจากความรักในหัวใจ โดนนางฟ้า (หรือแม่มดหว่า?) สาปให้เป็นสัตว์ประหลาด รวมทั้ง ข้าราชบริพาร ก็ถูกสาปให้กลายเป็นสิ่งของต่างๆ และวิธีที่จะพ้นคำสาปได้คือต้องทำให้หัวใจรู้จักความรัก หรือพูดง่ายๆ ต้องมีใครมาให้รักและเขาก็ต้องรู้จักรักคนอื่นกลับด้วย  ถึงจะพ้นจากคำสาปได้ แต่หากช้าไป แล้วกลีบกุหลาบวิเศษ ร่วงหมดเจ้าชายก็ต้องเป็นสัตว์ประหลาดตลอดไป   


รีวิวหนัง โฉมงามกับเจ้าชายอสูร


ตัดภาพมาที่นางเอกของเรา เธออาศัยอยู่กับพ่อสองคน ส่วนแม่ตายไปล่ะ แต่เบลล์นี่ถือเป็นคนประหลาดในสายตาของชาวบ้านเพราะเป็นผู้หญิงที่รักการอ่านหนังสือมาก แต่คนอื่นในหมู่บ้านไม่ชอบอ่านหนังสือ แต่เบลล์นี่มีความคิดความฝันและจินตนาการดีกว่าคนอื่นๆ และสำคัญ เธอสวยกว่าคนอื่นๆ ด้วย วันดีคืนร้ายพ่อเธอเกิดพลัดหลงเข้าไปในปราสาทของเจ้าชายอสูร พอโดนจับ เบลล์เลยออกตามหาพ่อและยอมถูกจับไว้ที่ปราสาทแทน เพื่อช่วยให้พ่อได้กลับบ้าน


รีวิว Beauty and the Beast


เมื่อต้องอยู่ในปราสาทกับเจ้าชายอสูร จากที่ดุ ๆ ตึงๆ เชิดๆ ใส่กัน กลายเป็นรักกัน ในที่สุด เรียกว่ามองข้ามหน้าตาอันน่าเกลียดน่ากลัวของเจ้าชายไปเลยทีเดียว  ความพีคของหนังคือตอนที่ พวกชาวบ้านยกพวกจะมาฆ่าเจ้าชายอสูร  เบลล์ได้พิสูจน์รักแท้  ทำให้สามารถแก้คำสาปได้ในที่สุดเรียกว่าจบ  แบบนิทานเจ้าชายเจ้าหญิงนั่นล่ะครับ






 

มาดูคะแนนรีวิวกันดีกว่า ในส่วนของเนื้อหา ผมให้ที่ 9/10 หากจะพูดกันตรงๆ ผมว่าการ์ตูนดูลื่นไหลแล้วสนุกกว่าหน่อยนึง   เพราะในเวอร์ชั่นภาพยนตร์ที่เป็นคนแสดงเหมือนจะร้องเพลงกันมากเกินไปนิด (แม้ว่าเพลงจะเพราะมากๆ  แต่ผมก็มีแอบหลับไปประมาณ 2 เพลง หรือเพลงอาจจะเพราะจนผมเคลิ้ม?? )  แต่ข้อดีในส่วนภาพยนตร์คือมีการขยายความในบางฉากบางตอนที่การ์ตูนไม่มีเช่น ที่มาที่ไปที่ทำให้เบลล์ต้องกำพร้าแม่ เป็นต้น  สำหรับ ในส่วนของแอนิเมชั่นหรือกราฟฟิคต่างๆ ทำออกมาได้ดีงามสมความเป็นดิสนีย์ ฉากสวย ยิ่งใหญ่อลังการ เสื้อผ้าหน้าผม ปราสาทราชวัง  สิ่งของเครื่องใช้เครื่องประดับ ดูสวยงามมาก ให้ไปที่ 9.5/10







ในส่วนของเพลงประกอบ อย่างที่บอกแล้วว่า ช่างไพเราะเพราะพริ้ง แม้จะร้องกันบ่อยไปหน่อย แต่คำร้องทำนองดีงาม เสียงร้องไพเราะจับใจ ให้ไปที่ 9.5/10 สำหรับสิ่งที่ผมชอบมากที่สุดในหนังเรื่องนี้ก็คือ ดารานำฝ่ายหญิงนี่ละครับ เรื่องนี้น้อง เอมมา วัตสัน ดูงดงามน่ารักสมกับความเป็น “เบลล์” เรียกว่านั่งดูนางเอกแล้วตะลึงงัน ชวนฝันจนลืมตัวไปชั่วขณะนึกว่าตัวเองเป็นเจ้าชายอสูร (อิอิ)  ผมให้คะแนนในส่วนนักแสดงนำหญิงที่ 10/10 นักแสดงคนอื่นก็เล่นได้ดีให้ที่ 9/10  ส่วนคติหรือข้อคิด ที่ได้จากหนังเรื่องนี้ก็มีแยะนะ แต่อยากให้ไปดูเอง ในส่วนนี้ผมให้ที่ 9.5/10 
 รีวิว บิวตี้แอนด์เดอบีสท์


สำหรับคะแนนรวม รีวิวหนัง โฉมงามกับเจ้าชายอสูร  Beauty and The Beast ผมให้ที่ 9.5/10 สรุปได้ว่าเป็นหนังดี ภาพสวย นางเอกงาม มุมกล้อง กราฟฟิค ฉากเว่อร์วังอลังการ ครบเครื่องมากแต่คนที่ไม่ค่อยชอบฟังเพลงเยอะๆ อาจจะมีแอบง่วงบ้างในบางช่วงบางตอน แต่ผมว่าจะหาโอกาสไปชมในโรง IMAX  สักหน่อยเพราะมั่นใจว่าน่าจะฟินขึ้นอีกหลายกิโลขีด เพราะจะได้ดูหน้าน้อง “เบลล์” แบบสวยงามเต็มๆ จอ และคงจะเก็บความน่ารักของ เอมม่า วัตสัน กลับไปบ้านแบบเต็มๆ หัวใจด้วย  (ขอกรี๊ดดดดดดังๆ ส่งท้ายก่อนจบหน่อย 555)


 

อาจารย์บอม

About Ajbomb

นักหาเรื่อง นักเล่าเรื่อง นักเขียน นักแปล รักการสอน รักเด็ก รักสัตว์ รักธรรมชาติ รักษ์โลก

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น