“โลกไม่ได้เปลี่ยนแค่คนพูด… แต่เปลี่ยนกระทั่งว่า เราฟังใครอยู่”
— อาจารย์บอม ชนัฐ เกิดประดับ
📊 ข่าวนี้มาแรง: ผลสำรวจระดับโลกชี้ว่า…
งานวิจัยจาก Reuters Institute for the Study of Journalism ที่สำรวจคนเกือบ 100,000 คนทั่วโลก เผยว่า
- 🇺🇸 54% ของชาวอเมริกันเสพข่าวจากโซเชียลมีเดีย
- 📺 ขณะที่ทีวีมีคนดูเพื่อเสพข่าวเพียง 50%
- ประเทศที่ “หลีกเลี่ยงการเสพข่าว” มากที่สุดคืออังกฤษ โดย 46% บอกว่าบางครั้งหรือบ่อยครั้งมักหลีกเลี่ยงการเสพข่าว
🎧 Influencer ยุคใหม่ = สำนักข่าวทางเลือก?
Joe Rogan, TikTokers, YouTubers กลายเป็น “ผู้เล่าเรื่อง” แห่งยุค
คนกว่า 22% ในสหรัฐฯ ระบุว่าเสพข่าวผ่าน Joe Rogan เพียงไม่กี่วันหลังพิธีสาบานตนของทรัมป์
โดยเฉพาะกลุ่ม “คนหนุ่มรุ่นใหม่” ที่สื่อกระแสหลักแทบเข้าถึงไม่ได้
และกระแสนี้ไม่ได้จำกัดแค่ในสหรัฐฯ
อินเดีย บราซิล อินโดนีเซีย และไทย กำลังกลายเป็นสนามหลักของ “ข่าวจากอินฟลูเอนเซอร์”
❌ ลาแล้วความน่าเชื่อถือ? Elon Musk กับแพลตฟอร์ม X
หลัง Elon Musk เทคโอเวอร์ X (Twitter เดิม)
- 👥 ฝั่งขวาเพิ่มขึ้นจาก 10% เป็น 15%
- 📉 ฝั่งซ้ายลดลงจาก 17% เหลือ 14%
ภาพชัดขึ้นว่าแพลตฟอร์มหนึ่งๆ อาจไม่เป็น “กลาง” เสมอไป
🤖 AI กำลังจะกลายเป็นนักข่าว (ที่ไม่ต้องนอน)
คนรุ่นใหม่เริ่มใช้ ChatGPT หรือ Gemini เพื่อเสพข่าวโดยตรง
โดยเฉพาะกลุ่มอายุต่ำกว่า 35 ปี ถึง 12% หันมาใช้ chatbot
ผู้ใช้ทั่วโลกเชื่อว่า AI จะทำให้ข่าว “เร็วขึ้น ถูกลง”
แต่มีความกังวลว่ามันจะ “ขาดความโปร่งใส ความแม่นยำ และความน่าเชื่อถือ”
🧭 มุมมอง อาจารย์บอม
“ข่าววันนี้ไม่ได้แข่งกันที่ใครรายงานเร็วกว่า… แต่แข่งกันว่าใคร ‘เชื่อถือได้’ มากกว่ากัน”
ยุคที่ ใครก็เป็นผู้รายงานข่าวได้ แค่มีโทรศัพท์กับตัวตนบนโลกออนไลน์
คือยุคที่เราทุกคนต้อง รู้ทันเนื้อหา และเข้าใจเจตนาของคนเล่าเรื่อง
🧠 สิ่งที่ต้องจับตา:
- ผู้คนเริ่มเสพข่าวน้อยลงเพราะรู้สึก “หนักใจ” กับโลกที่มีแต่เรื่องเครียด
- ความจริงกลายเป็นเรื่องต่อรอง — แล้ว “ความไว้วางใจ” จะอยู่ตรงไหน?
- AI กับอินฟลูเอนเซอร์ สองพลังที่กำลังเปลี่ยนหน้าตาของสื่อแบบไม่มีวันย้อนกลับ
📣 ร่วมพูดคุย:
คุณเปลี่ยนจากดูทีวี มาเสพข่าวบนมือถือเมื่อไหร่?
ใครคือตัวจริงด้านข่าวในสายตาคุณ?
คอมเมนต์ไว้ใต้โพสต์นี้ หรือแชร์บทความนี้ไปให้เพื่อน ๆ ที่ต้องตามให้ทันโลกดิจิทัลนี้ครับ 🙌